2557 05 23 เจอราร์ด โจว
ผู้เข้าชมรวม
41
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
23/05/2014 เจอราร์ด โจว J / ศัลยแพทย์
เด็กหนุ่ม J จากเมืองนอกสัญชาติจีน นักแสดงอนาคตไกล
พ่อแม่ทำธุรกิจ พี่ชายสืบทอดบริษัท
แมวมองจากที่ต่างแดนหลังเรียนจบ เพราะถูกใจนิสัย ลักษณะของ J ตรงกับตัวละคร
ปัจจุบันอายุ 28 แต่หน้าเหมือนคนอายุ 23 ปี หน้าตาหล่อเหลา
มาดนิ่ง สุขุม นุ่มลึก ขาว สะอาด สูง 183 เซนติเมตร น้ำหนัก 57-63 กิโลกรัม ผมตามการถ่ายละคร
การศึกษาดี ดีกรีปริญญาโท โปรไฟล์เลิศ
ไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัว ทุกอย่างถูกปกปิดเป็นความลับ
ได้โอกาสเล่นหนังใหญ่ ฟอร์มยักษ์ เป็นนักรบในตระกูลใหญ่ เด็กชอบ ไม่ถูกกับม้า
มีแต่แฟนแต่เก็บเป็นความลับ คบหากันมากกว่า 2 ปี
มีข่าวว่าเป็นเกย์ แต่จริงๆ แมน 100 %
หลังจากนั้นมีนักขาวตามสืบจนเจอแฟนของ J นักแสดงสาว U อู๋อี้หมิน (แอนนา อู๋)
J เมมเบอร์แฟนเป็น “Human” U เมมเบอร์เป็น “Man”
ของที่ U ซื้อ J พลาดเอามาใส่ในกองถ่าย เลยเป็นข่าวมีคนจำได้
มิหนำซ้ำนักแสดงอีกคนในกองเคยพูดถึง U มาก่อน แต่ J เงียบ พอข่าวออกมาว่าเป็นแฟนกัน มีแต่คนมาขอโทษ ที่พูดไปไม่คิด ไม่รู้ว่าเป็นแฟนกัน
U ขี้หึงบ้าง ตอน U ขับรถ J หันไปมองสาวที่เดินที่ถนน โดน U ตบหน้าขึ้นรอยบนแก้มข้างขวา
ปัจจุบัน
คนรอบข้างที่ไม่รู้ประวัติของ J มีแต่ข่าวลือว่าเรียนไม่จบบ้าง เกเรบ้าง
คิดว่าการศึกษาน้อย หล่ออย่างเดียว
แต่มีงานเปิดตัวละครเรื่องหนึ่ง นักแสดงข้างๆ คุยกันเป็นภาษาอังกฤษ แล้วพาดพิงถึง J J หันมามองพูดตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน
พวกนั้นคิดว่าเคยอยู่เมืองนอกมาก่อนก็คงพูดได้อยู่แล้ว เลยเฉยๆ
หลังจากนั้นเริ่มมีข่าวลือออกมาโจมตี J มากมาย J นิ่งเงียบ บริษัทเงียบ
มีคนขุดคุ้ยเรื่องทางบ้าน J จนความแตกดังโพละ
เมื่อเจอเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันในร้านอาหาร นักข่าวเลยสืบจนเจอต้นตอ
เพื่อนเล่าให้ฟังหมดว่าเรียนอะไรมา จบอะไรมา นิสัย ฐานะทางบ้าน เห็นแต่งตัวเรียบๆ ที่บ้านฐานะดีนะ
และเรื่องที่นักข่าวนั้นตกใจที่สุดคือ “จบหมอ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ชนะเพื่อนคนนี้ไปแค่วิชาเดียว”
พอไปถาม J ก็ได้ความว่า “ตอนที่มีคนมาทาบทาม ผมเพิ่งเรียนจบยังไม่ได้ลงประวัติที่โรงพยาบาลไหน เลยหาเงินไปพลางๆ ก่อน จะได้ไม่ต้องขอทางบ้าน แต่ผมชอบตอนที่คนไม่รู้มากกว่า จะแต่งตัวธรรมดาอย่างไรก็ได้ ไม่มีคนสนใจ พอรู้จะมาบังคับให้ผมแต่งตัวให้สมกับเป็นหมอ มันน่าเบื่อ”
ทางกองถ่ายก็เคยสงสัยว่า ทำไม J ถึงเข้าถึงบทบาทหมอจัง มีการบอกเคล็ดลับ ท่าทาง คำพูด ศัพท์เทคนิคต่างๆ อารมณ์ ความรู้สึกได้สมจริง
ตอนเรียนจบทางบ้านตั้งความหวังไว้มาก ให้หาประสบการณ์ในโรงพยาบาลไปก่อน พอมีคนรู้จักค่อยขยับมา จะเปิดคลินิกให้ แต่ J บอกให้สัมภาษณ์ว่า “ผมว่ามันไกลตัวกับการออกมาเปิดคลินิก พอมีคนมาทาบทาบให้เป็นนักแสดง ผมว่ามันท้าทาย เลยขอหาประสบการณ์ใหม่ หาตัวตนสักพัก จนวันนี้ผมมีความสุขกับมัน มันเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตของผมไปแล้ว ตื่นเช้าทำงาน ไปพบปะคนข้างนอก สนุกสนาน ไม่จำเจ เจอคนมากมาย คุยเล่นสนุก
ส่วนเรื่องแฟน เราเข้ากันได้ดี ทั้งนิสัย การกิน แฟชั่น ครอบครัว”
ตอน J จบใหม่ๆ เคยส่งใบสมัครงานในโรงพยาบาลในอเมริกามาก่อน เป็นโรงพยาบาลชั้นนำ แต่ผ่านไป 3 เดือน ไม่มีการติดต่อกลับมา J เลยตัดสินใจรับเป็นดารา
พอผ่านไป 2 ปี ทางโรงพยาบาลโทรมาติดต่อผิดคน เมื่อ 2 ปี ก่อน อยากจะให้ J เป็นหมอที่โรงพยาบาลทันที
ตอน 2 ปีแรก J ยังไม่ค่อยดังเท่าที่ควร มีงานแสดง โฆษณาบ้าง
เลยตัดสินใจไปเป็นหมอที่จีนอยู่ 1 ปี ก่อนจะลาออกแล้วมาเล่นละครเต็มตัว
ช่วง 1 ปีที่หายไปทางบ้านแทบไม่มีคนรู้ จนมีการซักประวัติออกมา
เก็บเงินที่จีน เริ่มซื้อบ้านอยู่คนเดียว
ข่าวเป็นเกย์ : แรกๆ ที่เข้ามาเป็นดารา ด้วยท่าทางเรียบร้อย สุภาพ คนเลยมองภาพลักษณ์แบบนั้น และมีข่าวลือว่า J ช่วยเลี้ยงลูกชายของคู่ขาอยู่ 3 เดือน
ความจริงคือ เพื่อนรบกวนให้ช่วยเลี้ยงลูกตนเอง
เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันมีลูกชาย แต่ภรรยาเสียชีวิต ตัวเองไม่มีญาติพี่น้อง J เป็นเพื่อนที่สนิทมากที่สุด เลยขอให้ช่วยเลี้ยงลูก ก่อนตนเองจะไปเรียนต่อ 3 เดือน ที่อเมริกาค่อยกลับมา
ลูกชายของเพื่อนอายุ 5 ขวบ J รับเป็นพ่อบุญธรรม ด้วยนิสัย น่ารัก ว่าง่าย
J พูดเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้งสอนภาษาจีนไปด้วย
เด็กก็สอนภาษาจีนตัวเขียนกลับมา J พูดได้แต่อ่านไม่ค่อยออก เขียนได้บ้าง ด้วยความที่พูดภาษาอังกฤษมาตลอดชีวิต มาเรียนจีนตอนเป็นดารา
หลังจากอยู่จีนมาหลายปี J เลยต้องเข้าเรียนอย่างจริงๆ จังๆ
และอีกอย่างแฟนเป็นชาวฮ่องกง พูดคนละสำเนียง ดีที่พูดจีนกลางได้เลยค่อยยังชั่ว
ตอนเจอกันที่สนามบิน แฟนเคยถามถึงข่าวลือของ J ทุกอย่าง
J ตอบตามความจริง หลังจากนั้นทั้งสองก็คบกันอย่างจริงจัง
หนำซ้ำ J มี U เป็นแฟนคนแรก ที่ผ่านมา J เอาแต่เรียนไม่เคยคบหาใครทั้งสิ้น
อาการป่วย ก่อนที่จะรู้ว่าเป็นหมอ กับ งานเปิดตัวหนัง
ในงานตอนท้ายมีการส่งแชมเปญให้นักแสดง ตอนแรก J ถือเฉยๆ ไม่ดื่ม แต่พอเห็นรอบข้างคนสังเกตว่า J ไม่ดื่มเลย เลยขอให้จิบสักนิด J ลังเลแต่เอาแค่แตะปากเล็กน้อย
ไม่นาน J เริ่มตัวแดงขึ้นเรื่อยๆ บอกนักแสดงที่เล่นเป็นพี่ชายในเรื่องทุกอย่าง พอคนจะลงจากเวที J ก็ทรุดตัวล้มลงบนเวที
ก่อนความโกลาหลจะบังเกิด
พอเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาถาม J บอก “WTD”
อาการของ J เป็น 8 ใน 10 ส่วนแล้ว
แพ้แอลกอฮอลล์ขั้นรุนแรง
ต้องหยุดอาการโดยฉีดยาเข้าที่ต้นขา
ใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการของ J หายใจแรง กระชั้น ติดๆ ขัดๆ ร่วมด้วย
ก่อนฤทธิ์ยาจะออกฤทธิ์ สลบไปจนถึงโรงพยาบาล
ในห้องฉุกเฉิน J มีภาวะไม่คงที่ ต้องฉีดยาอีกตัวช่วยกระตุ้น ยับยั้งที่ด้านหลังสะโพกอีก 1 เข็ม
หยุดงานรวม 4 วัน อยู่โรงพยาบาล 3 วัน สุดท้ายกลับไปอยู่บ้าน
ก่อนจะกลับมาปรากฏตัวในอาทิตย์หน้า ด้วยสภาพตัวขาวซีด
หลังจากนั้นพอมีการดื่มเหล้า J ยกแก้วเสร็จแล้ววางลง ต้องเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแทน
เพื่อนใหม่
J ล่วงหน้ามาที่เกาหลีก่อนจะมีการโปรโมตภาพยนตร์ ในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า
J วางแผนทัวร์ไว้ตลอดทริป ทั้งเรียนทำอาหารประจำชาติ เที่ยว ซื้อของฝาก กิน
J เจอเพื่อนใหม่ที่เที่ยวแห่งหนึ่ง คุยถูกคอ ด้วยเรื่องเดียวกัน สนิทกันเร็ว
เคยมาหาถึงโรงแรมที่พักของ J ด้วย
2 คนรู้จักกันโดยไม่เปิดเผยตัวตนอีกฝ่ายหนึ่ง คบกับเพียงผิวเผินเท่านั้น
อีก 2 วัน J ต้องไปงานเปิดตัวหนังที่นี้
เพื่อนเห็น J ทางทีวี เดินทางมาอวยพรที่โรงแรม เปิดตัวว่า J เป็นนักแสดงจีน ส่วนเพื่อนเป็นนักแสดงเกาหลีเช่นกัน
วันหลังเลยแวะมาคุยด้วยตลอด สานความสัมพันธ์กันต่อเนื่องยาวนาน
กลายเป็นข่าวฮอตตลอดถึงเพื่อนซี้ผูกข้าวประเทศ
แฟนกับผมและละคร
J เคยรับงานแสดงเล่นกับ U อยู่ 1 เรื่อง แถมยังเป็นคู่ขวัญในจออีก
พอโปรโมตละคร ก็เขินกัน จับมือทักทสยกันอย่างอายๆ
แต่เล่นสมบทบาททั้งคู่ และเล่นที่ฮ่องกง บ้านแฟนสาว
แฟนคลับต่างเชียร์ให้เป็นแฟนกันจริงๆ ในชีวิตจริง
ตอนถูกสัมภาษณ์ ก็ว่าต่างคนต่างมีแฟนแล้วทั้งคู่
แฟนผมและคนอื่นๆ
ตอนผมไม่สบาย เธอไปกับก๊วนเพื่อนนักแสดงเป็นตัวแทนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ต่างฝ่ายต่างต้องรักษาหน้าที่และความลับ
แม้แต่ผู้จัดการทั้งสองคนยังไม่รู้ เพราะไม่เคยเห็นติดต่อกันมาก่อน ต่างฝ่ายต่างติดต่อกันด้วยข้อความที่ไม่ระบุเบอร์โทรของอีกฝ่าย
ภาพ
เมื่อหลายปีก่อน เคยมีนักข่าวถ่ายรูปของ J กับ U ได้ที่หน้าห้างแห่งหนึ่งในฮ่องกง J ไปซื้อของกับแฟนแต่ใส่หมวก มีผ้าคาดปาก ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ สวมแว่นตา เห็นแค่ด้านข้าง เดินคู่กับ U แต่ไม่มีใครจำได้สักคน
และ U เคยบอกว่าแฟนเคยเป็นหมอ แต่ไม่ยอมบอกอาชีพปัจจุบัน ส่วนพ่อแม่ของ U เคยกังวลว่าแฟนลูกสาวเป็นใคร
วันหนึ่ง U เลยต้องลอบพา J มาหาที่บ้าน แนะนำตัวกับทุกๆ คน และขอให้ปกปิดเป็นความลับ
เพราะ U กับ J เป็นคนประเภทเดียวกัน
นั่นคือให้ความสนใจความสามารถในการแสดงมากกว่า และให้ความสนใจในเรื่องของความรัก คบกันอย่างจริงใจ แต่ไม่อยากเปิดเผย
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็คบกันมา 4 ปีแล้ว ด้วยความเข้าใจกัน U กับ J เคยตกลงกันว่า ถ้ามีนักข่าวถามว่าทำไมไม่ย้ายมาบ้านเดียวกันให้ตอบว่า “เราสองคนเป็นแฟนกัน ไม่ใช่สามีภรรยากัน”
เราสองคนเป็นพวกหัวโบราณทั้งคู่ ถ้าไม่แน่ใจจะไม่ยอมตัดสินใจอะไรลงไปเด็ดขาด
บาดเจ็บในกองถ่าย
เคยมีการผิดคิว J ยืนซ้าย นักแสดงอีกคนตวัดแขนมาทางซ้ายที่ J ยืนอยู่ ผลออกมาที่สนับแขนเข้าดั้งจมูก และปาก เลือดไหลโชก ล้มทั้งยืนเกือบเสียโฉม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Linpheyshu ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Linpheyshu
ความคิดเห็น